แนะนำคลินิก

ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง เป็นส่วนหนึ่งของคลินิกบ้านรักสัตว์ ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการบำบัดรักษาโรคผิวหนังสัตว์ ตั้งแต่ระดับเบื้องต้น จนถึงระดับการตรวจรักษาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน รวมทั้ง ยังให้บริการรับส่งต่อเพื่อการตรวจรักษาต่อเนื่องในรายที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังที่มีความยุ่งยากซับซ้อนจากคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์อื่นอีกด้วย

ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง ดำเนินการตรวจ และรักษาโดย “น.สพ. รังสรรค์ สกุลพลอย สพ.บ. Cert Vet Dermatology”

การ บริการของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง จะให้บริการด้านโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง แบบครบวงจร ตั้งแต่โรคผิวหนังเบื้องต้น เช่นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือปรสิต จนถึงโรคที่ต้องการ การตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคมะเร็งหรือเนื้องอกของผิวหนัง โรคผิวหนังที่เกิดจากความบกพร่องของฮอร์โมนหรือระบบภูมิค้มกัน รวมถึงโรคติดเชื้อของผิวหนัง หูอักเสบ โรคของเท้าที่เป็นๆหายๆ หรือไม่ยอมหายขาด

ขั้นตอนการรักษาโรคผิวหนังของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง จะกระทำในแนวทางเดียวกับที่กระทำกันในประเทศออสเตรเลีย โดยจะเน้นไปที่การเจาะลึกไปถึงสาเหตุของโรคทั้ง สาเหตุหลัก และสาเหตุที่ซ่อนอยู่ควบคู่ไปกับการรักษา เพื่อให้เกิดประสิทธิการรักษาที่สูงที่สุด มีผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยที่สุด รวมทั้งประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด




การบริการของเรา

การบริการของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยงประกอบด้วย

· การตรวจทางเซลล์วิทยา (Cytology)
· การตรวจเชื้อรา โดยวิธี KOH preparation, Wood’s lamp examination, และ Fungal Culture
· การทดสอบการแพ้น้ำลายหมัด (Flea bite hypersensitivity testing)
· การทดสอบการเกิดโรคผิวหนังเนื่อง จากอาหาร (Adverse food reaction testing)
· การทดสอบการเกิดปฏิกิริยากับสาร ภูมิแพ้ในอากาศ (Aeroallergen Testing)
· การตัดชิ้นเนื้อของผิวหนังที่มี ปัญหา เพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา (Skin Biopsy for Dermatohistopathology)
· การทดสอบระดับฮอร์โมน เพื่อการวินิจฉัยโรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน (Hormonal Assay for Skin disease due to Endocrinopathy)
· การรักษาโรคภูมิแพ้ โดยการ Immunotherapy
· การตรวจโรคหู โดยการทำ Otoscopic examination
· การรักษาโรคหูอักเสบ โดยการทำ Ear Flushing technique



ที่ตั้งคลินิก

66/36 หมู่บ้านนิศาชล ซ. บางแวก79 ถ. บางแวก (จรัลฯ13)
แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม 10160

โทร. 064-253-5695

มือถือ 064-253-5695 (เปิดเครื่องรับสาย 8.00 น. - 20.00น.)

E-mail: allergyvet@yahoo.com

LINE : allergyskinvet

Facebook: facebook.com/allergyskinvet และ http://www.facebook.com/allergydermvet

พิกัด GPS : 13.741167,100.422598 (บนแผนที่ของ Google)

แผนที่ของคลิินิก: ให้ ก็อปปี้ "13.741167,100.422598" แล้วไป paste ลงที่ช่อง ค้นหา maps ของ http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl คุณพบแผนที่ของคลินิก

จากนั้นคุณสามารถค้นหาเส้นทางมาที่คลินิกได้จาก link ที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่

สำหรับท่านที่ใช้ GPS ของ Garmin ให้ใช้พิกัด N:13 ํ 44.469' E:100 ํ 25.361'

การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

ติดต่อกับผมได้ที่โทร 064-253-5695

LINE : allergyskinvet และที่

Facebook: http://www.facebook.com/allergyskinvet

และ http://www.facebook.com/allergydermvet ครับ

เวลาทำการ

อาทิตย์ 13.00-20.30น.

จันทร์-ศุกร์ 11.00-14.00น. และ 17.00-20.30 น. (ช่วงโรงเรียนเปิดเทอม หมอต้องออกไปรับลูก)


เสาร์ เฉพาะนัดล่วงหน้าเท่านั้น (ถ้าไม่มีใครนัด หมอขอปิดทำการ เพื่อพาลูกไปเที่ยว)


เนื่องจาก ปัจจุบันเจ้าของสัตว์หลายๆรายจะอยู่ไกลจากคลินิกมาก ประกอบกับช่วงนี้ตัวหมอเองมีความจำเป็นบางอย่าง ที่อาจจำเป็นต้องปิดทำการเพื่อออกไปทำธุระ

จึงใคร่ขอรบกวนให้ช่วยโทรนัดล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่มาแล้วเสียเที่ยว

ทางคลินิกต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้




ติดต่อกับผมได้ที่โทร 064-253-5695

LINE : allergyskinvet และที่

Facebook: http://www.facebook.com/allergyskinvet

และ http://www.facebook.com/allergydermvet ครับ

ราคาค่าบริการสำหรับการรักษาโรคผิวหนังของทางศูนย์โรคภูมิแพ้และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง

ราคาค่าบริการสำหรับโรคผิวหนังทั่วไป และโรคภูมิแพ้
+ค่าตรวจ + ค่าตรวจโรคผิวหนัง 200 บาท
+ค่าตรวจเพิ่มเติมที่อาจจำเป็น จะแจ้งราคาให้ทราบเมื่อจำเป็นต้องทำการตรวจ
+ค่ายารักษา ขึ้นกับชนิดของตัวยา ปริมาณยาที่ใช้ และตัวสัตว์ป่วยแต่ละตัว


ค่าใช้จ่ายสำหรับโรคขี้เรื้อนรูขุมขน (สุนัขน้ำหนักตัวไม่เกิน 16 กิโลกรัม)

+ค่าตรวจทั่วไป + ค่าตรวจโรคผิวหนัง 200 บาท
+ค่ายาที่ใช้รักษา 1,200 บาทต่อ 1 เดือน
+ค่ายาอื่นๆที่อาจต้องใช้ ขึ้นกับชนิดของตัวยา ปริมาณยาที่ใช้ และตัวสัตว์ป่วยแต่ละตัว

สำหรับท่านที่ไม่ชอบพกเงินสด 😀😀 ตอนนี้ทางคลินิกได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินโดยใช้ การโอนเงินผ่าน Promtpay, การใช้ QR Code (ไม่ค่าโอนถ้าใช้บัญชี Promptpay) และรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต(คิดค่าธรรมเนียมการใช้บัตร 3%) ได้แล้วครับ 😁😁

เส้นทางมาที่คลินิก



คลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 66/36 หมู่บ้านนิศาชล ซ. บางแวก79 ถ. บางแวก (จรัลฯ13)
แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม 10160

การเดินทางมาที่คลินิกบ้านรักสัตว์(ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) จะสามารถมาได้หลายทาง โดยถ้ามาจาก ถ.กาญจนาภิเษก ให้เลี้ยวเข้า ถ.จรัลฯ 13(บางแวก) มุ่งหน้าไปทาง ถ.จรัลสนิทวงศ์ วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็นซุ้มประตูวัดมะพร้าวเตี้ยอยู่ด้านซ้าย ให้วิ่งตามทางมาเรื่อยๆจะเห็นหมู่บ้านศุภาลัยอยู่ด้านขวา จะเห็นตึกแถวของหมู่บ้านนิศาชลอยู่ติดกับหมู่บ้านศุภาลัย ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยบางแวก79 (ซอยหมู่บ้านนิศาชล) จะเห็นเซเว่นฯ อยู่ปากปากซอย (ทางเข้าหมู่บ้าน) แล้วเตรียมชิดซ้ายหาที่จอดรถ จะเห็นป้าย “คลินิกบ้านรักสัตว์” อยู่ด้านซ้าย สามารถจอดรถได้ที่หน้าคลินิก



ถ้ามาจาก ถ.ราชพฤกษ์ ถ.พุทธมณฑลสาย1 ถ.จรัลสนิทวงศ์ หรือ ถ.เพชรเกษม48 ให้เลี้ยวเข้า ถ.จรัลฯ 13 (บางแวก) มุ่งหน้าไปทาง ถ.กาญจนาภิเษก วิ่งตามทางมาเรื่อยๆจนข้ามสะพานข้ามคลองราชมนตรี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางแวก79 (ซอยหมู่บ้านนิศาชล) จะเห็นเซเว่นฯ อยู่ปากปากซอย (ทางเข้าหมู่บ้าน) แล้วเตรียมชิดซ้ายหาที่จอดรถ จะเห็นป้าย “คลินิกบ้านรักสัตว์” อยู่ด้านซ้าย สามารถจอดรถได้ที่หน้าคลินิก


พิกัด GPS : 13.741167,100.422598 (บนแผนที่ของ Google)

แผนที่ของคลินิก: ให้ ก็อปปี้ 13.741167,100.422598 แล้วไป paste ลงที่ช่อง ค้นหา maps ของ http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl คุณพบแผนที่ของคลินิก

จากนั้นคุณสามารถค้นหาเส้นทางมาที่คลินิกได้จาก link ที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่

สำหรับท่านที่ใช้ GPS ของ Garmin ให้ใช้พิกัด N:13 ํ 44.469' E:100 ํ 25.361'



การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

การเตรียมตัวพาสัตว์เลี้ยงเพื่อรับการตรวจโรคผิวหนังกับทางคลินิกบ้านรักสัตว์

เพื่อที่จะเป็นการประหยัดเวลา และลดการใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องมีแก่เจ้าของสัตว์ป่วย

* คนที่พาสุนัขมารับการตรวจ และรักษา ควรเป็นเจ้าของสัตว์ป่วย หรือผู้ที่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการการยอมรับการรักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆ เนื่องจากโรคผิวหนังมัก ใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นาน มักต้องการการตรวจหลายครั้ง และต้องการการสื่อสารที่ดี เพื่อการอธิบายถึงปัญหาต่างๆของตัวโรค และแผนการรักษาที่ชัดเจน และไม่คลุมเคลือ

* กรุณาอย่าให้คนอื่น หรือคนรับใช้ที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ เป็นคนพามาตรวจ และรับการรักษาแทน เพื่อป้องกันความผิดพลาดเนื่องจาก การสื่อสาร

* งดอาบน้ำสัตว์เลี้ยงของคุณก่อนมารับการตรวจ และรักษาอย่างน้อย 5 วันก่อนการนัดหมาย

* งดทำความสะอาดหูสัตว์เลี้ยงของคุณก่อนมารับการตรวจ และรักษาอย่างน้อย 5 วันก่อนการนัดหมาย

*กรุณาอย่าใช้ยาทาที่เป็นสีต่างๆ ซึ่งล้างออกยาก เช่น ยาม่วง ยาเหลือง ยาแดง เนื่องยากลุ่มนี้จะบังแผล แผลรอยโรคต่างๆ และรบกวนการย้อมสีตัวอย่าง

* ถ้ามียาที่ต้องให้กิน หรือฉีดที่ต้องใช้อยู่ ณ เวลาที่ต้องการพามาตรวจ (ซึ่งได้รับมาจากคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์อื่น) กรุณาอย่างดยา และแจ้งให้ทางคลินิกบ้านรักสัตว์ทราบทุกครั้ง

*สำหรับในกรณีที่พาแมวมา กรุณาใส่กรง หรือตระกร้าที่ปิดล๊อคได้มา เพื่อความปลอดภัยของแมว และตัวเจ้าของแมวเอง

* ควรโทรนัดล่วงหน้า


*ควรให้เวลากับทางคลินิก 1-2 ชั่วโมงเพื่อ การตรวจ รักษา และให้คำแนะนำได้เต็มที่

* เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ท่านเจ้าของสัตว์ป่วย กรุณากรอกแบบสอบถามโดยการคลิกที่ Label ทางด้านขวา หรือดาวน์โหลดได้จาก

https://docs.google.com/document/d/1u2LAH4cKOLi6Pvrdp5Bzyaq49q4OWS9-smhix7oKoNc/edit

โดยให้ Save เป็นไฟล์ของ Word แล้วกรอกแบบสอบถาม จากนั้นสามารถส่งได้โดยการปริ๊นท์ออกมาแล้วนำมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยง หรือส่งมาทาง email หรืออัปโหลดขึ้น google docs แล้วแจ้งลิงค์มาทาง

http://www.facebook.com/Allergyskinvet หรือ http://www.facebook.com/allergydermvet ก็ได้

การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

Sunday, October 1, 2017

การตรวจเลือดในสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง

การตรวจเลือดในสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง

คำเตือน: บทความนี้ คลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังของสัตว์เลี้ยง) ทำขึ้นเพื่อให้เป็นความรู้เบื้องต้น และให้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเกี่ยวการเจาะเลือดตรวจ และวัตถุประสงค์ของการตรวจเลือดเท่านั้น บทความนี้จะไม่กล่าวถึงวิธีการแปลผลเลือด (ซึ่งต้องให้สัตวแพทย์เป็นผู้ประเมินเท่านั้น) และไม่กล่าวถึงการตรวจเลือดแบบพิเศษที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะ นอกจากนี้การตรวจเลือดเป็นเพียงแค่ตัวช่วยสัตวแพทย์ในการประเมินปัญหา วินิจฉัยและติดตามการรักษาเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องมือวิเศษที่จะสรุปได้ทุกอย่าง

การตรวจเลือดในสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง

โดยทั่วไป การตรวจเลือดเพื่อการวินิจฉัยจะไม่ค่อยได้ทำในสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง ยกเว้นการเจาะเลือดเพื่อทำ allergy test, การเจาะเลือดตรวจเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคที่เกิดจากภายในร่างกายแล้วมาแสดงออกที่ผิวหนังเช่น โรคการทำงานของต่อมไทรอยด์บกพร่อง(Hypothyroidism), กลุ่มอาการการทำงานมากว่าปกติของต่อมหมวกไต(Cushing’s syndrome), Hepatocutaneous syndrome, หรือ Superficial necrolyltic dermatitis ซึ่งเกิดจากโรคตับ 

สำหรับการตรวจเลือดที่ทำในสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนังส่วนใหญ่มักทำในกรณีติดตามหรือประเมินผลข้างเคียงของยาที่ต้องให้เป็นระยะเวลานาน และ/หรือมีผลข้างเคียงสูงเช่นยา ciclosporin, olacitinib, สเตียรอด์เช่น Prednisolone, Dexamethasone, Tiamcinolone เป็นต้น ซึ่งสัตวแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป

โดยทั่วไปเราเจาะเลือดเพื่อประเมินสิ่งต่างต่อไปนี้

1 การตรวจ CBC หรือ Complete Blood Count การตรวจนี้จะทำเพื่อประเมินสภาวะ การสูญเสียน้ำของร่างกาย ภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ ความสามารถในการจับตัวของเลือด และประเมินสภาพของระบบภูมิคุ้มกัน เวลานั้น การตรวจCBC เป็นการตรวจที่สำคัญในสัตว์ที่มีอาการไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย อ่อนแรง ซีด เบื่ออาหาร ในใบรายงานผลตรวจจะแจ้งค่าต่างที่สำคัญดังนี้
+HCT หรือ Hematocrit หรือที่หมอและบุคคลากรทางการแพทย์เรียกย่อๆว่าคริต ค่านี้จะบอกเป็นเปอร์เซนต์ของเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยสัตวแพทย์ประเมินสภาวะโลหิตจาง และการขาดน้ำ
+Hb(Hemoglobin) และ MCHC(Mean Corpuscular Hemoglobin concentration) จะเป็นตัวช่วยในการประเมินความสามารถในการพาออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงไปเลี้ยงร่างกาย
+WBC(White Blood Cell Count) จะใช้ในการประเมินเซล์ของระบบภูมิคุ้มกัน(เม็ดเลือดขาว) ค่าเลือดนี้จะเปลี่ยนแปลงในรายที่มีการติดเชื้อ หรือโรคบางชนิด
+Neut(Neutrophil) เป็นตัวเม็ดเลือดขาวที่ใช้ประเมินการติดเชื้อ
+Lymph(Lymphocyte) เป็นตัวเม็ดเลือดขาวที่ใช้ประเมินความสามารถในการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
+Eos(Eosinophil) เป็นเม็ดเลือดขาวที่มักมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในรายที่มีปัญหาภูมิแพ้ หรือมีปรสิตในร่างกาย
+Plt(Platelets) หรือเกล็ดเลือด จะช่วยบอกถึงความสามารถในการห้ามเลือดของตัวสัตว์นั้นๆ
+Retic(Reticulocyte) หรือเม็ดเลือดแดงที่ยังไม่พัฒนาตัวเต็มที่ จะช่วยให้เราทราบชนิดของโลหิตจางในสัตว์ป่วยนั้นๆ

2การตรวจวัดค่าเคมีในเลือด (Blood/Serum Chemistry) จะช่วยในการประเมินการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย ภาวะของอีเลคโตรไลท์ต่างๆ ระดับของฮอร์โมน ค่าต่างๆเหล่านี้จะใช้ช่วยในการประเมินสุขภาพก่อนการได้รับการวางยา-ผ่าตัด การได้รับสารพิษ สุขภาพโดยรวม และติดตามผลของการได้รับยาเป็นเวลานานๆ

+ การประเมินปริมาณของน้ำในร่างกาย การติดเชื้อ สภาพโดยรวม เรามักจะดูจาก:
++ALB (Albumin) หรือโปรตีนไข่ขาว เป็นโปรตีนในซีรั่มที่สามารถใช้ในการประเมินปริมาณน้ำในร่างกายได้ รวมถึงสามารถใช้ในการประเมินสุขภาพของลำไส้ ตับและไตได้
++TP (Total Protein) จะบ่งบอกถึงปริมาณน้ำในร่างกาย และข้อมูลสุขภาพของตับ ไต รวมถึงสภาวะการติดเชื้อได้
++GLOB (Globulin) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในเลือดที่มักมีค่าสูงขึ้นในรายที่ติเชื้อเรื้องรัง

+การประเมินสุขภาพของตับ โดยตัวที่เราใช้ดูเป็นตัวหลักได้แก่:
++ALK หรือ AP หรือ ALP (Alkaline Phosphatase) เป็นค่าตับที่บ่งบอกว่ามีปัญหา Cushing’s disease (โรคที่เกิดจากการสร้างสเตียรอยด์ในร่างกายที่มากเกินไป) การได้รับยาในกลุ่มสเตียรอยด์ (ถ้าสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญมากพอ) หรือในลูกสัตว์หรือเด็กที่มีการเจริญเติบโตของกระดูก
++ALT (Alanine Transaminase) เป็นค่าเลือดที่บอกถึงความเสียหายของเนื้อตับ และเป็นตัวช่วยในการประเมินการทำงานของตับ
++AST (Aspartate Transaminase) เป็นค่าเลือดที่บอกว่าน่าจะเกิดความเสียหายต่อเนื้อตับ กล้ามเนื้อหัวใจ หรือกล้ามเนื้อ
++GGT (Gamma Glutamyl Transaminase) จะขึ้นสูงในรายที่มีโรคตับ หรือมีสเตียรอยด์ในเลือดมากเกินไป
++TBIL (Total Bilirubin) จะขึ้นสูงในรายที่มีปัญหาเรื่องระบบน้ำดีที่ตับหรือท่อน้ำดี อาจใช้ช่วยประเมินปัญหาของเม็ดเลือดได้ เช่นในรายที่มีปัญหาโลหิตจาง 
++CHOL (Cholesterol) ใช้ช่วยในการวินิจฉัยโรคของต่อมไทรอยด์ ตับ ต่อมหมวกไต ตับอ่อนและโรคเบาหวาน (ถ้าสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญมากพอ)

+การประเมินสภาพของไต เราจะใช้ค่าเหล่านี้เป็นหลัก:
++BUN (Blood Urea Nitrogen) เป็นตัวฟ้องถึงการทำงานของไต ถ้าสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญมากพอ จะสามารถใช้ค่านี้ช่วยประเมินสภาวะการขาดน้ำ การทำงานของตับ โรคหัวใจ ภาวะช๊อคได้
++CREAT (Creatinine) จะบอกถึงการทำงานของไต

+การประเมินระดับน้ำตาลในเลือด เรามักตรวจจาก:
++GLU (Glucose / Blood Sugar) ถ้าขึ้นสูงมักบ่งชี้ถึงโรคเบาหวาน ถ้าต่ำอาจทำให้วูบ ถ้าพบความผิดปกติของค่านี้ (สัตวแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อมักจะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาที่มาของความผิดปกติ)

+การประเมินระดับเกลือแร่ในเลือด เรามักจะดู:
++Ca (Calcium) การเปลี่ยนแปลงของค่านี้เกิดได้ความเจ็บป่วยหลายๆโรค
++Cl (Chloride) และ Na (Sodium) มักต่ำในรายที่มีปัญหาโรค Addison’s Disease (โรคที่เกิดจากการสร้างสเตียรอยด์ในร่างกายน้อยเกินไป) หรือสูญเสียไปจากอาการอาเจียน หรือท้องเสีย สำหรับสัตวแพทย์ที่ชำนาญมากๆ จะสามารถใช้ค่าสองตัวนี้ประเมินปริมาณน้ำในร่างกายได้
++K (Potassium) ค่านี้ถ้าลงต่ำในรายที่มีปัญหาอาเจียน ท้องเสีย หรือถ่าบปัสสาวะมากกว่าปกติ ถ้าขึ้นสูงอาจบอกว่ามีปัญหาไตวาย การอุดตันในไต หรือโรค Addison’s Disease เป็นต้น ระดับของ Potassium ในเลือดที่สูงมากๆอาจทำให้หัวใจหยุดเต้น (Cardiac Arrest) ได้
++P (Phosphorus) การสูงขึ้นของค่านี้มักพบในรายที่มีปัญหาโรคไต การมีฮอร์โมนไทรอยด์มากเกิน และ/หรือรายที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด

+การประเมินปัญหาของตับอ่อน เรามักใช้ค่า:
++LIP (Lipase) ซึ่งถ้าสูงขึ้นจะบ่งชี้ถึงภาวะตับอ่อนอักเสบ
++AMYL (Amylase) ซึ่งจะสูงขึ้นในรายที่มีปัญหาตับอ่อนอักเสบ หรือโรคไต

3 การวัดระดับฮอร์โมน ในการตรวจโรคผิวหนัง เรามักตรวจฮอร์โมนต่อไปนี้เป็นหลัก
+ Cortisol เราจะใช้การตรวจฮอร์โมนเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบเพื่อการวินิจฉัยโรค Cushing’s Disease หรือ Addison’s Disease บางครั้งสัตวแพทย์ด้านโรคผิวหนัง หรือต่อทไร้ท่ออาจใช้ช่วยประเมินการเปลี่ยนแปลงอาการของสัตว์ป่วยเนื่องจากการได้รับยาตระกูลสเตียรอยด์ที่มากเกินไป
+T4 หรือ Thyroxine จะใช้ในการประเมินผลของให้ยาที่ใช้ในการรักษาสภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์