แนะนำคลินิก

ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง เป็นส่วนหนึ่งของคลินิกบ้านรักสัตว์ ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการบำบัดรักษาโรคผิวหนังสัตว์ ตั้งแต่ระดับเบื้องต้น จนถึงระดับการตรวจรักษาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน รวมทั้ง ยังให้บริการรับส่งต่อเพื่อการตรวจรักษาต่อเนื่องในรายที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังที่มีความยุ่งยากซับซ้อนจากคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์อื่นอีกด้วย

ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง ดำเนินการตรวจ และรักษาโดย “น.สพ. รังสรรค์ สกุลพลอย สพ.บ. Cert Vet Dermatology”

การ บริการของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง จะให้บริการด้านโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง แบบครบวงจร ตั้งแต่โรคผิวหนังเบื้องต้น เช่นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือปรสิต จนถึงโรคที่ต้องการ การตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคมะเร็งหรือเนื้องอกของผิวหนัง โรคผิวหนังที่เกิดจากความบกพร่องของฮอร์โมนหรือระบบภูมิค้มกัน รวมถึงโรคติดเชื้อของผิวหนัง หูอักเสบ โรคของเท้าที่เป็นๆหายๆ หรือไม่ยอมหายขาด

ขั้นตอนการรักษาโรคผิวหนังของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง จะกระทำในแนวทางเดียวกับที่กระทำกันในประเทศออสเตรเลีย โดยจะเน้นไปที่การเจาะลึกไปถึงสาเหตุของโรคทั้ง สาเหตุหลัก และสาเหตุที่ซ่อนอยู่ควบคู่ไปกับการรักษา เพื่อให้เกิดประสิทธิการรักษาที่สูงที่สุด มีผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยที่สุด รวมทั้งประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด




การบริการของเรา

การบริการของทางศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยงประกอบด้วย

· การตรวจทางเซลล์วิทยา (Cytology)
· การตรวจเชื้อรา โดยวิธี KOH preparation, Wood’s lamp examination, และ Fungal Culture
· การทดสอบการแพ้น้ำลายหมัด (Flea bite hypersensitivity testing)
· การทดสอบการเกิดโรคผิวหนังเนื่อง จากอาหาร (Adverse food reaction testing)
· การทดสอบการเกิดปฏิกิริยากับสาร ภูมิแพ้ในอากาศ (Aeroallergen Testing)
· การตัดชิ้นเนื้อของผิวหนังที่มี ปัญหา เพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา (Skin Biopsy for Dermatohistopathology)
· การทดสอบระดับฮอร์โมน เพื่อการวินิจฉัยโรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน (Hormonal Assay for Skin disease due to Endocrinopathy)
· การรักษาโรคภูมิแพ้ โดยการ Immunotherapy
· การตรวจโรคหู โดยการทำ Otoscopic examination
· การรักษาโรคหูอักเสบ โดยการทำ Ear Flushing technique



ที่ตั้งคลินิก

66/36 หมู่บ้านนิศาชล ซ. บางแวก79 ถ. บางแวก (จรัลฯ13)
แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม 10160

โทร. 064-253-5695

มือถือ 064-253-5695 (เปิดเครื่องรับสาย 8.00 น. - 20.00น.)

E-mail: allergyvet@yahoo.com

LINE : allergyskinvet

Facebook: facebook.com/allergyskinvet และ http://www.facebook.com/allergydermvet

พิกัด GPS : 13.741167,100.422598 (บนแผนที่ของ Google)

แผนที่ของคลิินิก: ให้ ก็อปปี้ "13.741167,100.422598" แล้วไป paste ลงที่ช่อง ค้นหา maps ของ http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl คุณพบแผนที่ของคลินิก

จากนั้นคุณสามารถค้นหาเส้นทางมาที่คลินิกได้จาก link ที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่

สำหรับท่านที่ใช้ GPS ของ Garmin ให้ใช้พิกัด N:13 ํ 44.469' E:100 ํ 25.361'

การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

ติดต่อกับผมได้ที่โทร 064-253-5695

LINE : allergyskinvet และที่

Facebook: http://www.facebook.com/allergyskinvet

และ http://www.facebook.com/allergydermvet ครับ

เวลาทำการ

อาทิตย์ 13.00-20.30น.

จันทร์-ศุกร์ 11.00-14.00น. และ 17.00-20.30 น. (ช่วงโรงเรียนเปิดเทอม หมอต้องออกไปรับลูก)


เสาร์ เฉพาะนัดล่วงหน้าเท่านั้น (ถ้าไม่มีใครนัด หมอขอปิดทำการ เพื่อพาลูกไปเที่ยว)


เนื่องจาก ปัจจุบันเจ้าของสัตว์หลายๆรายจะอยู่ไกลจากคลินิกมาก ประกอบกับช่วงนี้ตัวหมอเองมีความจำเป็นบางอย่าง ที่อาจจำเป็นต้องปิดทำการเพื่อออกไปทำธุระ

จึงใคร่ขอรบกวนให้ช่วยโทรนัดล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่มาแล้วเสียเที่ยว

ทางคลินิกต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้




ติดต่อกับผมได้ที่โทร 064-253-5695

LINE : allergyskinvet และที่

Facebook: http://www.facebook.com/allergyskinvet

และ http://www.facebook.com/allergydermvet ครับ

ราคาค่าบริการสำหรับการรักษาโรคผิวหนังของทางศูนย์โรคภูมิแพ้และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง

ราคาค่าบริการสำหรับโรคผิวหนังทั่วไป และโรคภูมิแพ้
+ค่าตรวจ + ค่าตรวจโรคผิวหนัง 200 บาท
+ค่าตรวจเพิ่มเติมที่อาจจำเป็น จะแจ้งราคาให้ทราบเมื่อจำเป็นต้องทำการตรวจ
+ค่ายารักษา ขึ้นกับชนิดของตัวยา ปริมาณยาที่ใช้ และตัวสัตว์ป่วยแต่ละตัว


ค่าใช้จ่ายสำหรับโรคขี้เรื้อนรูขุมขน (สุนัขน้ำหนักตัวไม่เกิน 16 กิโลกรัม)

+ค่าตรวจทั่วไป + ค่าตรวจโรคผิวหนัง 200 บาท
+ค่ายาที่ใช้รักษา 1,200 บาทต่อ 1 เดือน
+ค่ายาอื่นๆที่อาจต้องใช้ ขึ้นกับชนิดของตัวยา ปริมาณยาที่ใช้ และตัวสัตว์ป่วยแต่ละตัว

สำหรับท่านที่ไม่ชอบพกเงินสด 😀😀 ตอนนี้ทางคลินิกได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินโดยใช้ การโอนเงินผ่าน Promtpay, การใช้ QR Code (ไม่ค่าโอนถ้าใช้บัญชี Promptpay) และรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต(คิดค่าธรรมเนียมการใช้บัตร 3%) ได้แล้วครับ 😁😁

เส้นทางมาที่คลินิก



คลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 66/36 หมู่บ้านนิศาชล ซ. บางแวก79 ถ. บางแวก (จรัลฯ13)
แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม 10160

การเดินทางมาที่คลินิกบ้านรักสัตว์(ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) จะสามารถมาได้หลายทาง โดยถ้ามาจาก ถ.กาญจนาภิเษก ให้เลี้ยวเข้า ถ.จรัลฯ 13(บางแวก) มุ่งหน้าไปทาง ถ.จรัลสนิทวงศ์ วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็นซุ้มประตูวัดมะพร้าวเตี้ยอยู่ด้านซ้าย ให้วิ่งตามทางมาเรื่อยๆจะเห็นหมู่บ้านศุภาลัยอยู่ด้านขวา จะเห็นตึกแถวของหมู่บ้านนิศาชลอยู่ติดกับหมู่บ้านศุภาลัย ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยบางแวก79 (ซอยหมู่บ้านนิศาชล) จะเห็นเซเว่นฯ อยู่ปากปากซอย (ทางเข้าหมู่บ้าน) แล้วเตรียมชิดซ้ายหาที่จอดรถ จะเห็นป้าย “คลินิกบ้านรักสัตว์” อยู่ด้านซ้าย สามารถจอดรถได้ที่หน้าคลินิก



ถ้ามาจาก ถ.ราชพฤกษ์ ถ.พุทธมณฑลสาย1 ถ.จรัลสนิทวงศ์ หรือ ถ.เพชรเกษม48 ให้เลี้ยวเข้า ถ.จรัลฯ 13 (บางแวก) มุ่งหน้าไปทาง ถ.กาญจนาภิเษก วิ่งตามทางมาเรื่อยๆจนข้ามสะพานข้ามคลองราชมนตรี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางแวก79 (ซอยหมู่บ้านนิศาชล) จะเห็นเซเว่นฯ อยู่ปากปากซอย (ทางเข้าหมู่บ้าน) แล้วเตรียมชิดซ้ายหาที่จอดรถ จะเห็นป้าย “คลินิกบ้านรักสัตว์” อยู่ด้านซ้าย สามารถจอดรถได้ที่หน้าคลินิก


พิกัด GPS : 13.741167,100.422598 (บนแผนที่ของ Google)

แผนที่ของคลินิก: ให้ ก็อปปี้ 13.741167,100.422598 แล้วไป paste ลงที่ช่อง ค้นหา maps ของ http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl คุณพบแผนที่ของคลินิก

จากนั้นคุณสามารถค้นหาเส้นทางมาที่คลินิกได้จาก link ที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่

สำหรับท่านที่ใช้ GPS ของ Garmin ให้ใช้พิกัด N:13 ํ 44.469' E:100 ํ 25.361'



การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

การเตรียมตัวพาสัตว์เลี้ยงเพื่อรับการตรวจโรคผิวหนังกับทางคลินิกบ้านรักสัตว์

เพื่อที่จะเป็นการประหยัดเวลา และลดการใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องมีแก่เจ้าของสัตว์ป่วย

* คนที่พาสุนัขมารับการตรวจ และรักษา ควรเป็นเจ้าของสัตว์ป่วย หรือผู้ที่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการการยอมรับการรักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆ เนื่องจากโรคผิวหนังมัก ใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นาน มักต้องการการตรวจหลายครั้ง และต้องการการสื่อสารที่ดี เพื่อการอธิบายถึงปัญหาต่างๆของตัวโรค และแผนการรักษาที่ชัดเจน และไม่คลุมเคลือ

* กรุณาอย่าให้คนอื่น หรือคนรับใช้ที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ เป็นคนพามาตรวจ และรับการรักษาแทน เพื่อป้องกันความผิดพลาดเนื่องจาก การสื่อสาร

* งดอาบน้ำสัตว์เลี้ยงของคุณก่อนมารับการตรวจ และรักษาอย่างน้อย 5 วันก่อนการนัดหมาย

* งดทำความสะอาดหูสัตว์เลี้ยงของคุณก่อนมารับการตรวจ และรักษาอย่างน้อย 5 วันก่อนการนัดหมาย

*กรุณาอย่าใช้ยาทาที่เป็นสีต่างๆ ซึ่งล้างออกยาก เช่น ยาม่วง ยาเหลือง ยาแดง เนื่องยากลุ่มนี้จะบังแผล แผลรอยโรคต่างๆ และรบกวนการย้อมสีตัวอย่าง

* ถ้ามียาที่ต้องให้กิน หรือฉีดที่ต้องใช้อยู่ ณ เวลาที่ต้องการพามาตรวจ (ซึ่งได้รับมาจากคลินิก หรือโรงพยาบาลสัตว์อื่น) กรุณาอย่างดยา และแจ้งให้ทางคลินิกบ้านรักสัตว์ทราบทุกครั้ง

*สำหรับในกรณีที่พาแมวมา กรุณาใส่กรง หรือตระกร้าที่ปิดล๊อคได้มา เพื่อความปลอดภัยของแมว และตัวเจ้าของแมวเอง

* ควรโทรนัดล่วงหน้า


*ควรให้เวลากับทางคลินิก 1-2 ชั่วโมงเพื่อ การตรวจ รักษา และให้คำแนะนำได้เต็มที่

* เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ท่านเจ้าของสัตว์ป่วย กรุณากรอกแบบสอบถามโดยการคลิกที่ Label ทางด้านขวา หรือดาวน์โหลดได้จาก

https://docs.google.com/document/d/1u2LAH4cKOLi6Pvrdp5Bzyaq49q4OWS9-smhix7oKoNc/edit

โดยให้ Save เป็นไฟล์ของ Word แล้วกรอกแบบสอบถาม จากนั้นสามารถส่งได้โดยการปริ๊นท์ออกมาแล้วนำมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยง หรือส่งมาทาง email หรืออัปโหลดขึ้น google docs แล้วแจ้งลิงค์มาทาง

http://www.facebook.com/Allergyskinvet หรือ http://www.facebook.com/allergydermvet ก็ได้

การตรวจรักษาจะรับเฉพาะในรายที่โทรนัดเท่านั้นครับ ถ้าสนใจโทรนัดได้ที่ 064-253-5695 ครับ

Monday, October 18, 2010

หมัด การควบคุม และกำจัดหมัด (FLEAS AND FLEA CONTROL)

หมัด การควบคุม และกำจัดหมัด (FLEAS AND FLEA CONTROL)

หมัด หรือบางคนเรียกว่าหมัดแมวเป็นตัวปรสิตภายนอกที่สร้างปัญหาโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด ที่คลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) พบว่าประมาณร้อยละ 90 ของโรคผิวหนังในสุนัขและแมว ที่มาใช้บริการกับทางคลินิก มักมีปัญหาโรคผิวหนังอักเสบจากการแพ้น้ำลายหมัดร่วมอยู่ด้วย นอกจากนี้หมัดยังเป็นตัวพาหะนำโรคต่างๆเช่นการติดพยาธิตัวตืด โรคฮีโมบาร์โทเนโลซิสเป็นต้น การควบคุมหมัดเป็นความท้าทายของสัตวแพทย์และตัวเจ้าของสัตว์ เพราะว่าตัวหมัดที่โตเต็มวัยเท่านั้นที่สร้างปัญหา แต่ทว่าในสภาพแวดล้อมรอบตัวสัตว์จะอุดมไปด้วยไข่ และตัวอ่อนระยะต่างๆของหมัดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไข่ และตัวอ่อนระยะต่างๆของหมัดเหล่านี้ จะเป็นตัวเพิ่มประชากรตัวหมัดที่โตเต็มวัยบนตัวสัตว์ และในสภาพแวดล้อมรอบตัวสัตว์ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้การควบคุมหมัดที่ดีในทางทฤษฎีคือ ต้องได้ผลครอบคลุมตัวหมัดทุกระยะ ทั้งบนตัวสัตว์ทุกตัว และในสภาพแวดล้อม ก่อนที่เราจะเข้าสู่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เราควรที่จะต้องรู้จักวงชีวิตของหมัดกันก่อน

วงชีวิตของหมัด (Ctenocephalides felis)

ตัวหมัดจะวางไข่บนขนของตัวสัตว์ที่มันอาศัยอยู่ หลังจากนั้นไข่หมัดจะร่วงหล่นจากตัวสัตว์ที่มันอาศัยอยู่ ไข่หมัดจะมีความทนต่อยาฆ่าแมลงทุกชนิด แต่จะไวต่อยาควบคุมการเจริญเติบโตของแมลง ตัวอ่อนของหมัด (Larvae) จะออกจากไข่ และเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมรอบตัวสัตว์เลี้ยง และกินมูล (เลือด) ที่ตัวหมัดถ่ายแล้วร่วงหล่นลงมาจากขนบนตัวสัตว์ ตัวอ่อนของหมัดจะไวต่อยาฆ่าแมลงทั่วๆไป สารในกลุ่มบอเรต และยาควบคุมการเจริญเติบโตของแมลง ตัวอ่อนของหมัดจะ
สร้างรังคล้ายรังไหมขึ้นมาหุ้มตัวมันเองแล้วพัฒนาเป็นตัวดักแด้ (Pupae) ต่อไป ซึ่งกระบวนการนี้ มักเกิดภายในเส้นใยของพรม ใยผ้า หรือใต้ใบหญ้า ในที่ที่ไม่โดนแสงแดด โดยตัวดักแด้ที่เกิดขึ้นมานี้ จะมีความทนต่อการแช่แข็ง การทำให้แห้ง และยาฆ่าแมลงหลายๆชนิด ตัวดักแด้จะสามารถคงสภาพดักแด้ได้หลายๆเดือนจนกว่าจะมีการกระตุ้นให้ลอกคราบเป็นตัวหมัดขั้นแรก ปัจจัยที่ช่วยทำให้เกิดการลอกคราบของตัวดักแด้ได้แก่ การสั่นสะเทือน ความร้อน และการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยปกติแล้วการลอกคราบของตัวดักแด้จะเกิดขึ้นเมื่อมีเหยื่ออยู่ใกล้ๆ และตัวหมัดขั้นแรกจะต้องพบเหยื่อในเวลาไม่กี่วินาที ตัวหมัดขั้นแรกที่เพิ่งออกมาจากไข่ ถ้าอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วันโดยไม่มีเหยื่อ ตัวหมัดที่เพิ่งเกิดใหม่จะเริ่มกินเลือดภายใน 1 ชั่วโมงหลังพบเหยื่อ (สุนัข และแมว) หลังจากที่หมัดดูดเลือดจากเหยื่อแล้ว ตัวหมัดจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากที่ลงจากตัวเหยื่อ ส่วนใหญ่แล้วอัตราการตายของตัวหมัดที่อยู่บนตัวเหยื่อที่ไม่ใช่ลูกสัตว์จะค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่จะอยู่บนตัวเหยื่อได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมงบนตัวเหยื่อที่มีอาการคันและสามารถแทะเลียตัวเองได้ แต่โชคไม่ดีที่กว่าที่ที่ตัวหมัดจะตาย ก็วางไข่ไปจำนวนมากแล้ว วงจรชีวิตของหมัดจะตกประมาณ 16 วัน

วิธีการควบคุมหมัดที่ควรทำ (FLEA CONTROL RECOMMENDATIONS)

ทางคลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง)มีความเห็นว่า เราต้องการให้สัตว์ที่มีปัญหาการแพ้น้ำลายหมัด ต้องปลอดจากหมัด 100% เพื่อให้ปลอดจากอาการแพ้น้ำลายหมัดอย่าง 100% ในกรณีที่มีการถูกหมัดกัดแม้เพียงเล็กน้อย (ถูกกัดแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) ก็มากเพียงพอที่จะทำให้เกิดอาการการแพ้น้ำลายหมัดได้แล้ว ช่วงระยะหลังๆในหลายๆประเทศเริ่มมีการทำการควบคุมหมัดในสภาพแวดล้อมของสัตว์เลี้ยงโดยการใช้สารยับยั้งตัวอ่อนของหมัดควบคู่ไปกับการควบคุมหมัดบนตัวสัตว์ วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างจะเรียกได้ว่าได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน แต่ทว่ายังคงต้องการทำซ้ำหลายๆครั้งเพื่อเพิ่ม และคงประสิทธิภาพอันเป็นการที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงและแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสารยับยั้งตัวอ่อนของหมัดยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้การควบคุมหมัดที่มีประสิทธิภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น การใช้สารกำจัดตัวโตเต็มวัยของหมัดที่อยู่บนตัวสัตว์เพียงอย่างเดียวพบว่ามีผลแค่บรรเทาอาการเท่านั้น และยาที่ใช้ในการกำจัดหมัดที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ส่วนใหญ่ออกฤทธิ์ในการฆ่าที่ช้าทำให้ หมัดสามารถมีช่วงเวลาที่จะฉีดน้ำลายแก่สัตว์เลี้ยงได้อย่างเต็มที่ แล้วยังเหลือเวลามากพอที่จะวางไข่เพื่อแพร่พันธุ์ต่อไปก่อนที่จะตายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยาที่ใช้ในการกำจัดหมัดที่สามารถลดการรับน้ำลายหมัดก็มีจำหน่ายในประเทศไทยเช่นกัน แต่ก็ข้อจำกัดการใช้บางอย่าง และหาซื้อได้ค่อนข้างยาก สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการควบคุมหมัด ทางคลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) ไม่สามารถแนะนำโดยไม่ผ่านการตรวจและรักษาจากทางคลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง)ได้ เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องจรรยาบรรณ และกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา
ในความเห็นของทางคลินิกบ้านรักสัตว์ (ศูนย์โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง) การกำจัดหมัด เพื่อการรักษาการแพ้น้ำลายหมัดที่ทำได้ในประเทศไทย คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดการรับน้ำลายหมัดกับสัตว์เลี้ยงทุกตัวในบ้าน ร่วมกับการกำจัดหมัดที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของสัตว์เลี้ยงอย่างเต็มที่